LINE

ติดต่อสอบถาม ได้ที่ 074-223420 หรือ 081-5988838
LINE ID : mailaser2006

2557-05-21

การเปลี่ยนแปลงของใบหน้า ความจริงที่ยากปฏิเสธ

aging skin, sagging face,Filler, ฟิลเลอร์,คอลลาเจน,หย่อนคล้อย

การหย่อนคล้อยหรือเสื่อมของผิวบนใบหน้าตามวัย ทั้งในผู้หญิงและผู้ชาย ทุกเชื้อชาติ
มีลักษณะตามภาพจากหนังสือ "Aesthetics and Cosmetic surgery for Darker skin types " เขียนโดย " Pearl D. Grimes  " 
การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวเกิดจากปัจจัยภายในร่างกายของเราเอง ไม่ได้รวมปัจจัยภายนอกที่ทำให้เกิดความเสื่อมได้เร็วขึ้น เช่น แสงแดด ความเครียด มลภาวะ

การเปลี่ยนแปลงหรือ การหย่อนคล้อย แบ่งตามโครงสร้างของใบหน้าจากหน้าผากจรดคาง เป็นสามส่วน ด้งนี้
  • ส่วนบน เกิด ร่องลึกเหนือคิ้ว หนังตาตก คิ้วตก ขมับตอบลึก
  • ส่วนกลาง เกิด ร่องใต้ตาลึก ถุงใต้ตา ร่องแก้มลึก และการงุ้มลงของปลายจมูก
  • ส่วนล่างสุดของใบหน้า เกิด มุมปากตก แก้มหย่อนยาน ( jowl) 


บทความสื่อการสอนสำหรับแพทย์ด้านความงามและชลอวัยโดยยเฉพาะ ใน MedScape .com ซึ่งบรรยายโดยแพทย์ชื่อดังในอเมริกา
ได้ให้ข้อมูลภาพที่น่าสนใจและมีประโยชน์มากในด้านการชลอวัย และ ช่วยให้เราเข้าใจกลไกที่เกิดขึ้นรวมถึง เคล็ดลับในการรักษาโดยมีหลักอยู่ที่ " ความสวยเป็นธรรมชาติ " 
เคล็ดลับความงามที่เป็นอมตะนี้ได้ถูกยกมาเปรียบเทียบระหว่างราชินีของอียิปต์ "เนเฟอติตี " กับ ราชินีเพลงป็อป " มาดอนน่า " แม้เวลาผ่านมากว่าสามพันปี สัดส่วนของใบหน้าที่ดูสวย เยาว์วัย และเป็น " อมตะตลอดกาล" คือ คางแหลมเรียว โหนกแก้มสูง จมูกเล็กเป็นสันตรง คิ้วได้รูป ริมฝีปากอิ่มและสุดท้ายคือ ดวงตากลมโต



นอกจากนี้ความงามตามแบบนิยม (สไตล์ตะวันตก ) สามารถเห็นได้จากดาราชื่อดังในฮอลลีวู้ด อเมริกา เช่น
  • คิ้วโก่ง แบบ มิเชลล์ ไฟเฟอร์ 
  • ตาโตและแก้มนูนสวยแบบมาดอนน่า 
  • จมูกโด่งตรงเรียวและปากอิ่มเหมือนแองเจลิน่า โจลี่
  • สุดท้ายคือมีคางเหลี่ยม (นิดหน่อย) ไม่มีไขมันแบบ เดมี่ มัวร์ 

ซึ่งดาราเหล่านี้คือต้นแบบในการปรับแต่งใบหน้าในอเมริกา ก็คงน่าจะเหมือนคนไทยที่ อยากมีหน้าผากนูน ปากเล็กๆเหมือนอั้ม พัชราภา หรือ คางเรียวกับจมูกงอนๆเหมือน เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ
( ในเมืองไทยจะนิยมความสวยแบบเกาหลีมากกว่า ซึ่งเป็นต้นแบบความงามแบบตะวันออก จึงอาจต่างกันเล็กน้อย ) 


ดังนั้นในทางการแพทย์จึงต้องมีการคิดค้น "การแบ่งสัดส่วนของใบหน้า " เพื่อให้มั่นใจได้ว่าเมื่อทำการรักษา หรือ เปลี่ยแปลงแก้ไขใบหน้าแล้ว ผลควรต้องออกมาสวยค่อนข้างแน่นอน
รูปบนเป็นการแบ่งสัดส่วนของใบหน้า ที่ง่ายและเป็นที่นิยมมากสุด คือการแบ่ง แนวตั้งเป็นห้าส่วน แนวนอนเป็นสามส่วน เท่าๆกัน


ภาพบนคือตัวอย่างง่ายๆให้เห็นว่าจะเปลี่ยนชายหนุ่มหน้าตาธรรมดาๆ ให้กลายเป็น " หล่อขั้นเทพ " ได้โดยการเปลี่ยนให้ใบหน้า
ได้สัดส่วนขึ้นตามสูตร ด้านบนนั่นเอง


กลับมาสู่หัวข้อเดิม แล้วเราจะ " ชลอวัย" หรือคืนความ "อ่อนเยาว์ " ให้แก่ใบหน้าได้อย่างไร ???
คำตอบคือ ทำตามหลักธรรมชาติ หรือ หลักอมตะตลอดกาล ที่กล่าวมาข้างต้น นั่นเอง โดยมองให้เห็นส่วนที่มีปัญหาและแก้ไขอย่างตรงจุด แล้ว " ความสวยแบบยั่งยืน " คงไม่ใช่เรื่องยาก 

ดูรูปด้านบน แล้ว ทายซิว่า อะไรเปลี่ยนไป .......


2557-05-05

ร่องแก้มลึกเกิดจากอะไร "Why we have naso-labial fold or smile lines"


ใบหน้าที่สวยสมบูรณ์แบบและดูเด็กตลอดเวลาคืิอความต้องการของทุกคน
สังเกตุบริเวณโครงสร้างหน้าของนางแบบระดับโลกพบว่า
จะไม่มีรอยลึกใต้กระบอกตาและไม่มีร่องแก้ม
โหนกแก้มเด่น และ กลมกลืนกับจมูก ปาก และคาง

รูปภาพแสดงการเปลี่ยนแปลงของร่องแก้มเมื่อเวลาผ่านไป

สาเหตุการเกิดร่องแก้ม ส่วนใหญ่เกิดจาก
  1. ผิวหนังหย่อนยานลงจากการขาดคอลลาเจน
  2. ไขมันบริเวณแก้มเคลื่อนตัวลง เป็นไปตามแรงโน้มถ่วงของโลก
  3. การแสดงสีหน้าอารมณ์มากๆ อาทิเช่น ยิ้ม หรือ หัวเราะ
  4. พันธุกรรมที่มีโครงสร้างของร่องลึกบริเวณแก้ม ตั้งแต่อายุน้อยๆ
  5. การถอนฟัน หรือ การจัดฟันที่ทำให้กระดูกกรามบนเล็กลง
    การแก้ไขสามารถทำได้หลายวิธี เดิมมักเป็นเรื่องของการผ่าตัดเป็นหลัก 
แต่บัจจุบัน มีการผลิตคอลลาเจนซึ่งเลียนแบบ คอลลาเจนใต้ผิวตามธรรมชาติของมนุษย์ ใช้เพื่อเติมเข้าสู่จุดที่มีปัญหา เรียกว่า " FILLER " ชนิดที่นิยมใช้และปลอดภัยที่สุดในปัจจุบัน คือ ชนิดที่เรียกว่า  HA  หรือ ไฮยารูโรนิก

ข้อดีของ ฟิลเลอร์ FILLER ชนิด HA คือ เป็นสารที่เติมเต็มได้โดยไม่ก่อให้เกิดการแพ้ จึงไม่จำเป็นต้องทดสอบการแพ้ก่อนฉีด
มีความนิ่มนวลเป็นธรรมชาติ ไม่แข็งเป็นก้อน
กรณีที่ไม่สวย หรือ เติมมากเกินไป สามารถทำลายได้โดยตัวละลาย
อายุของ HA ขึ้นอยู่กับชนิดและความหนาแน่น โดยส่วนใหญ่อยู่ได้ 6-18 เดือน 



การเติมเต็มร่องแก้มทำได้หลายเทคนิค โดยต้องปรับให้เข้ากับรูปหน้า โหนกแก้ม จมูก ปาก ของคนไข้เป็นสำคัญ
ตามวิดิโอจะเป็นการเติม ฟิลเลอร์แบบใช้เข็มทู่ ซึ่งมีข้อดีคือ เจ็บน้อย ไม่ค่อยมีรอยช้ำ ทำให้เส้นลึกที่ผิวหนังจางลง หรือหายไป และไม่ทำอันตรายต่อเส้นเลือดข้างเคียง