LINE

ติดต่อสอบถาม ได้ที่ 074-223420 หรือ 081-5988838
LINE ID : mailaser2006

2554-01-27

"กระ" ต่างกับ "ฝ้า" อย่างไร



กระ

มีลักษณะเป็นจุดสีน้ำตาลขนาดมักเล็ก กว่า 0.5 ซม.

พบกระจายอยู่บริเวณใบหน้าและผิวหนังที่ถูกแสงแดดเป็นประจำ

สาเหตุจากพันธุกรรมร่วมด้วย เริ่มพบได้ตั้งแต่วัยเด็กจากนั้นจะค่อยๆมีปริมาณเพิ่มมากขึ้นและสีเข้มขึ้น

การรักษา
-ทาครีมหน้าขาว [whitening ] และ หลบแดดอาจจางลงบ้างแต่ไม่หาย

-ใช้กรดทา หรือผลัดผิว จางลงได้แต่ต้องใช้เวลา

- ทำลายเซลล์สีผิดปกติด้วยเลเซอร์ YAG หรือ IPL รอยโรคหายไปแต่ควรดูแลไม่งั้นมาอีกได้

ฝ้า

มีลักษณะเป็นเปื้อนสีนำตาล เข้ม อ่อน ขึ้นกับความลึกและความหนาของเซลล์สี

พบกระจายบริเวณโหนกแก้ม จมูก โหนกคิ้ว เหนือริมฝีปาก

สาเหตุของการเกิดฝ้านั้นยังไม่เป็นที่ทราบแน่ชัด แต่เชื่อว่าน่าจะมีปัจจัยหลายอย่างร่วมกันได้แก่


  • แสงแดด ทั้ง UV-A และ UV-B

  • ฮอร์โมน จึงพบฝ้าได้บ่อยในคนที่ทานยาคุมกำเนิด หญิงตั้งครรภ์

  • ยารับประทานบางชนิด เช่น ยากันชัก

  • การแพ้เครื่องสำอาง โดยมากเกิดจากสารเคมีที่มีสีที่ผสมมาในเครื่องสำอาง

  • พันธุกรรม

การรักษา

  1. ใช้ครีมกันแดดเป็นประจำ

  2. งดหรือหลีกเลี่ยงการใช้ยาหรือฮอร์โมน ที่ไม่จำเป็น

  3. เลือกเครื่องสำอางที่มีคุณภาพ

  4. เลือกใช้ยาควบคุมฝ้าที่ได้มาตราฐานโดยรู้จักส่วนผสมและมีการปรับใช้อย่างเหมาะสม

  5. รับประทานยาที่ช่วยควบคุมการเกิดฝ้า

  6. การใช้เทคโนโลยีเข้าช่วย อาทิเช่น การผลัดผิว การใช้วิตามินบำรุง ช่วยทำให้ฝ้าจางเร็วขึ้น แต่ต้องควบคุมฝ้าด้วยวิธีอื่น ร่วมด้วย

  7. การใช้เลเซอร์ ช่วยรักษา
  • เหมาะกับคนที่มีปัญหาผิวอื่นๆ ร่วมด้วยที่ต้องการการรักษาด้วยเลเซอร์ เช่น กระ ผิวหมองคล้ำ หย่อนคล้อย

  • รักษาด้วยยาอย่างเดียวแล้วไม่เห็นผล หรือมีปัญหาจากยาฝ้าที่ใช้หรือวิธีรักษาเดิมๆ

  • ฝ้าลึกที่รักษาด้วยยาไม่ได้ผล

Onwimon Suttisirikul, MD


http://http//www.skinlaser-hatyai.com/melasma_treatment.html

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น