กระ
มีลักษณะเป็นจุดสีน้ำตาลขนาดมักเล็ก กว่า 0.5 ซม.
พบกระจายอยู่บริเวณใบหน้าและผิวหนังที่ถูกแสงแดดเป็นประจำ
สาเหตุจากพันธุกรรมร่วมด้วย เริ่มพบได้ตั้งแต่วัยเด็กจากนั้นจะค่อยๆมีปริมาณเพิ่มมากขึ้นและสีเข้มขึ้น
การรักษา
-ทาครีมหน้าขาว [whitening ] และ หลบแดดอาจจางลงบ้างแต่ไม่หาย
-ใช้กรดทา หรือผลัดผิว จางลงได้แต่ต้องใช้เวลา
- ทำลายเซลล์สีผิดปกติด้วยเลเซอร์ YAG หรือ IPL รอยโรคหายไปแต่ควรดูแลไม่งั้นมาอีกได้
ฝ้า
มีลักษณะเป็นเปื้อนสีนำตาล เข้ม อ่อน ขึ้นกับความลึกและความหนาของเซลล์สี
พบกระจายบริเวณโหนกแก้ม จมูก โหนกคิ้ว เหนือริมฝีปาก
สาเหตุของการเกิดฝ้านั้นยังไม่เป็นที่ทราบแน่ชัด แต่เชื่อว่าน่าจะมีปัจจัยหลายอย่างร่วมกันได้แก่
- แสงแดด ทั้ง UV-A และ UV-B
- ฮอร์โมน จึงพบฝ้าได้บ่อยในคนที่ทานยาคุมกำเนิด หญิงตั้งครรภ์
- ยารับประทานบางชนิด เช่น ยากันชัก
- การแพ้เครื่องสำอาง โดยมากเกิดจากสารเคมีที่มีสีที่ผสมมาในเครื่องสำอาง
- พันธุกรรม
การรักษา
- ใช้ครีมกันแดดเป็นประจำ
- งดหรือหลีกเลี่ยงการใช้ยาหรือฮอร์โมน ที่ไม่จำเป็น
- เลือกเครื่องสำอางที่มีคุณภาพ
- เลือกใช้ยาควบคุมฝ้าที่ได้มาตราฐานโดยรู้จักส่วนผสมและมีการปรับใช้อย่างเหมาะสม
- รับประทานยาที่ช่วยควบคุมการเกิดฝ้า
- การใช้เทคโนโลยีเข้าช่วย อาทิเช่น การผลัดผิว การใช้วิตามินบำรุง ช่วยทำให้ฝ้าจางเร็วขึ้น แต่ต้องควบคุมฝ้าด้วยวิธีอื่น ร่วมด้วย
- การใช้เลเซอร์ ช่วยรักษา
- เหมาะกับคนที่มีปัญหาผิวอื่นๆ ร่วมด้วยที่ต้องการการรักษาด้วยเลเซอร์ เช่น กระ ผิวหมองคล้ำ หย่อนคล้อย
- รักษาด้วยยาอย่างเดียวแล้วไม่เห็นผล หรือมีปัญหาจากยาฝ้าที่ใช้หรือวิธีรักษาเดิมๆ
- ฝ้าลึกที่รักษาด้วยยาไม่ได้ผล
Onwimon Suttisirikul, MD
http://http//www.skinlaser-hatyai.com/melasma_treatment.html
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น