สาเหตุของการเกิด รอยแตกลาย [ Striae / Strach marks ] ?
ผิวแตกลาย เกิดจากการยืดขยายต่อเนื่องของ ผิวหนัง และเนื้อเยื่อในเวลาอันรวดเร็ว ทำให้เกิดการทำลายโครงสร้างของชั้นคอลลาเจน พบได้บ่อยที่สุดใน
- หญิงตั้งครรภ์ บริเวณท้อง หรือหน้าอก
- คนที่อ้วนอย่างรวดเร็ว หรือในวัยรุ่นที่กำลังสูงอย่างรวดเร็ว โดยพบผิวแตกลายได้ที่ ต้นขาด้านนอก หลังด้านล่าง หรือสะโพก
- คนที่ทานยาสเตียรอยด์เป็นเวลานาน ๆ มักมีรอยแตกลายใหญ่และเป็นหลายที่ รวมถึงบนใบหน้าหรือการทาครีมที่มี สเตียรอยด์ ความเข้มข้นสูง นานเกินไปก็ทำให้เกิดรอยแตกลายได้
การป้องกันและรักษา รอยแตกลาย ?
การรักษาด้วยการทาครีมบำรุง หรือน้ำมันต่าง ๆ ช่วยได้เพียงเล็กน้อยมาก
ในระยะแรก รอยแตกลาย จะเป็นเส้นแบนหรือนูนเล็กน้อย สีแดงปนชมพู สามารถรักษาได้โดย
1. ทายาอนุพันธ์กรด วิตามินเอ เช่น Tretinoin 0.05-0.1%
2. กรอผิวด้วยเกร็ดอัญมณี ( Microdermabrasion ) หรือผลัดผิวด้วยกรดผลไม้ ( Chemical Peel ) ก็ช่วยทำให้ผิวดูเรียบขึ้นโดยการกำจัดเซลล์ชั้นบน ๆ ออกไป ได้ผล 10-30%
3. เลเซอร์ทำลายรอยแดง เช่น Pulsed dye laser , แสงความเข้มข้นสูง ( FPL,IPL ) กระตุ้น Collagen และปรับสีรอยแตกให้ใกล้เคียงกับผิวปกติ ได้ผล 30-80%
- แสงความเข้มข้นสูง ( FPL,IPL ) ได้ผลบ้างแต่น้อยมาก
- เลเซอร์ Nd : YAG ช่วยกระตุ้น Collagen ให้รอยแตกตื้นขึ้นได้บ้าง 10-30%
- Carboxytherapy เป็นการฉีดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เข้าบริเวณที่ต้องการรักษา เพื่อเพิ่มการไหลเวียนเลือด และออกซิเจนช่วยกระตุ้นการสร้าง คอลลาเจน จำเป็นทีต้องทำหลายครั้ง ได้ผลการรักษาประมาณ 30-60%
- Fractional laser หรือ FineScan เป็นวิธีการรักษาล่าสุด เป็นเลเซอร์ที่ช่วยสร้างผิวใหม่ คล้ายการรักษาแผลเป็นหรือหลุมสิว เป็นการรักษาที่ได้ผลดีที่สุดในเวลานี้ ได้ผล 60-90 % ขึ้นไปนับเป็นวิธีที่ให้ผลการรักษาที่ดีที่สุดในปัจจุบัน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น